เลือกตั้ง 2566 – เปิดหลักฐาน“เรืองไกร”เอาผิด“พิธา”ปมถือหุ้นสื่อ
เอกสาร ที่นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ สมาชิกพรรคพลังประชารัฐ เตรียมนำไปมอบให้กับ กกต.ในวันพรุ่งนี้(24 พ.ค.)ซึ่งเนื้อหาในเอกสารระบุว่า ขอให้ตรวจสอบสถานะผู้ถือหุ้นบริษัท ไอทีวี ของนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ซึ่งเป็นแคดิเดตนายกรัฐมนตรี ว่าเข้าข่ายตามลักษณะต้องห้ามตามความในรัฐธรรมนูญ มาตรา 98(3) หรือไม่
โดยนายเรืองไกร เตรียมเข้าร้องเรียนในฐานะผู้ไปใช้สิทธิเลือกตั้ง เอกสารมีทั้งหมด 28 หน้า แบ่งเป็น 6 ประเด็นหลัก คือ สำเนาบัญชีรายชื่อผู้ ถือหุ้น ไอทีวี ปี 2549-2566 ของนายพงษ์ศักดิ์(พ่อนายพิธา) และนายพิธา
เลือกตั้ง2566 : "สนธิญา" จี้ กกต.เร่งรัด ปมหุ้นสื่อของ "พิธา"
เลือกตั้ง 2566 : ชำแหละคดี"พิธา" ขวากหนามไปไม่ถึงฝันนายกฯ
สำเนารายชื่อผู้ถือหุ้น บมจ.ไอทีวี ปี 2549-2556 ,สำเนาวัตถุประสงค์ดำเนินกิจการ บมจ.ไอทีวี ,บัญชีรายได้รวม บมจ.ไอทีวี ,งบกำไรขาดทุน บมจ.ไอทีวี ปี 2549-2564 และ สำเนา พรบ.บริษัทจำกัดมหาชน(บางส่วน)คำพูดจาก สล็อต888
ตามรายละเอียด พบว่า ในรายละเอียดการถือครองหุ้นทั้งของนายพงษ์ศักดิ์ จำนวนหุ้นสุดท้ายที่ถือครอง คือ 42,000 หุ้น หลังเจ้าตัวเสียชีวิต ก็ตกทอดเป็นมรดก ทำให้นายพิธา(ลูกชาย)เป็นผู้ถือครองต่อจากกพ่อ โดยถือครองต่อเนื่องมาตั้งแต่ปี 2551 จนถึง ปัจจุบัน ระหว่างนั้นก็มีการแจ้งเปลี่ยนที่อยู่ 3 ครั้ง เรื่องนี้นายเรืองไกรตั้งข้อสังเกตว่า แม้นายพิธาจะอ้างว่าเป็นหุ้นมรดกและถือครองในฐานะผู้จัดการมรดก แต่กลับไม่ได้มีการระบุถึงเงื่อนไขนี้ในการถือครองหุ้น
วัตถุประสงค์ดำเนินกิจการ บมจ.ไอทีวี ซึ่งมีทั้งหมด 45 ข้อ แต่มีข้อ 18,40,41 และ 43 ที่ระบุชัดว่ากิจการดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับสื่อ
นอกจากนี้ยังมีเอกสารบัญชีรายได้และงบกำไรขาดทุน ที่ยืนยันว่าแม้ช่องไอทีวีจะปิดตัว แต่บริษัท ไอทีวี ยังคงมีการดำเนินกิจการต่อเนื่องมาถึงปัจจุบัน
เอกสารสุดท้าย คือ พรบ.บริษัทมหาชนจำกัด พ.ศ.2535 ที่ยืนยันว่านายพิธาได้ถือหุ้นไอทีวีโดยชอบด้วยกฏหมาย เพราะมีการนำเอกสารไปแสดงต่อนายทะเบียนมาตลอดตั้งแต่ปี 2551-ปัจจุบัน ซึ่งเป็นคุณสมบัติต้องห้ามของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง
เอกสารทั้งหมดที่นายเรืองไกร จะนำไปให้กับ กกต.ในวันพรุ่งนี้ ( 24 พ.ค.)ไม่ใช่หลักฐานใหม่ เป็นเอกสารที่คนนอกก็สามารถตรวจสอบได้ ซึ่งนายเรืองไกร อ้างว่า หลังจากนี้จะทยอยเปิดเผยเอกสารอื่น เชื่อว่าจะเป็นหลักฐานมัดเด็ดตัวและสามารถเอาผิดนายพิธา ในประเด็นถือครองหุ้นสื่อได้